จีนตรึงดอกเบี้ย LPR หนุนเงินหยวน สู้ศึกการค้าสหรัฐฯ

Cover image จีนตรึงดอกเบี้ย LPR หนุนเงินหยวน   สู้ศึกการค้าสหรัฐฯ

จีนตรึงดอกเบี้ย LPR หนุนเงินหยวน สู้ศึกการค้าสหรัฐฯ



ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้าที่ปะทุรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน ธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ (Loan Prime Rate - LPR) ทั้งระยะ 1 ปี และ 5 ปี ไว้ที่ระดับเดิม เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินหยวน

ตามรายงานจาก CNBC อัตราดอกเบี้ย LPR ระยะ 1 ปี ยังคงอยู่ที่ 3.1% และระยะ 5 ปี อยู่ที่ 3.6% โดยเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนเสถียรภาพทางการเงิน ท่ามกลางความเสี่ยงที่สหรัฐฯ อาจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติม

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการเปิดเผยตัวเลข GDP ของจีนในไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งขยายตัวแข็งแกร่งถึง 5.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีน แม้จะเผชิญแรงกดดันจากภายนอก

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ระยะ 1 ปี มีผลโดยตรงต่อสินเชื่อธุรกิจและประชาชนทั่วไป ขณะที่อัตราดอกเบี้ย LPR ระยะ 5 ปี เป็นอัตราอ้างอิงสำคัญในการกำหนดดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัย

ภายหลังการประกาศคงอัตราดอกเบี้ย ค่าเงินหยวนในประเทศเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ที่ราว 7.2995 หยวนต่อดอลลาร์ ส่วนค่าเงินหยวนนอกประเทศแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 7.2962 หยวนต่อดอลลาร์

การตรึงอัตราดอกเบี้ยของ PBOC ครั้งนี้เป็นไปตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่รอยเตอร์สำรวจไว้ โดย 87% เชื่อว่าแบงก์ชาติจีนจะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้

ด้านธนาคาร ING ของเนเธอร์แลนด์ให้ความเห็นว่า แม้อัตราเงินเฟ้อในจีนยังอยู่ในระดับต่ำ และภาวะเศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยแรงกดดัน แต่จีนอาจยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย เพราะต้องการคงเสถียรภาพของค่าเงินหยวนก่อน โดยเฉพาะในช่วงที่เฟดของสหรัฐฯ ยังไม่เริ่มวงจรลดดอกเบี้ย

ปัจจุบัน สหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 245% ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ สูงถึง 125% สะท้อนถึงความตึงเครียดทางการค้าที่ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายในระยะสั้น

แม้จีดีพีจะเติบโตในระดับที่น่าพอใจ แต่จีนยังคงเผชิญภาวะเงินฝืด โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนถึงกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังอ่อนแรง และเป็นอีกปัจจัยที่ PBOC ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป.

06 May 2025By Trendpro