ราคาน้ำมันดีดกลับ 1% หลังทรุดหนักจากนโยบายภาษีทรัมป์ นักลงทุนยังจับตาความเสี่ยงถดถอยทั่วโลก

ราคาน้ำมันดีดกลับ 1% หลังทรุดหนักจากนโยบายภาษีทรัมป์ นักลงทุนยังจับตาความเสี่ยงถดถอยทั่วโลก
โตเกียว, 8 เมษายน — ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นราว 1% ในช่วงเช้าวันอังคาร หลังจากดิ่งลงอย่างหนักในวันก่อนหน้า จากความวิตกว่าภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะฉุดดีมานด์ทั่วโลกและจุดชนวนเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังเตือนว่า ความเสี่ยงขาลงยังคงมีอยู่
🔺 ราคาน้ำมันฟื้นตัวบางส่วน
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 1% มาอยู่ที่ 64.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- WTI ของสหรัฐฯ ปรับขึ้น 67 เซนต์ หรือ 1.1% แตะระดับ 61.37 ดอลลาร์ ณ เวลา 06:50 GMT
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ ราคาน้ำมันร่วงถึง 14–15% หลังทรัมป์ประกาศภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดแบบ “Reciprocal Tariffs” เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วตลาดพลังงานและการเงินโลก
📉 กังวลดีมานด์หาย-เศรษฐกิจถดถอย Warren Patterson หัวหน้ากลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก ING ชี้ว่า ตลาดเริ่มสะท้อนความกังวลว่าดีมานด์พลังงานจะหายไปอย่างมีนัยสำคัญ “แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าผลกระทบจะรุนแรงแค่ไหน” เขากล่าว
รายงานจาก ING ยังระบุว่า ความเสี่ยงยังอยู่ฝั่งขาลง โดยเฉพาะหากทรัมป์ดำเนินการตามที่ขู่จะขึ้นภาษีจีนเพิ่มอีก 50% หากจีนไม่ยอมถอยจากมาตรการตอบโต้ 34% ภายในวันที่ 8 เม.ย. นี้
📉 จีนไม่ถอย ความเสี่ยงเพิ่ม นักวิเคราะห์จาก IG คาดว่าหากจีนยังยืนกรานไม่ลดภาษีตอบโต้ อัตราภาษีนำเข้าจากจีนจะพุ่งรวมเป็น 104% ซึ่งอาจส่งผลให้:
- ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างรุนแรง
- ความเชื่อมั่นนักลงทุนถดถอย
- เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเร็วขึ้น
📊 ตลาดรอข้อมูลสต๊อกน้ำมัน ขณะเดียวกัน ผลสำรวจจาก Reuters คาดว่า สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นราว 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนว่าตลาดยังมองว่าความต้องการใช้น้ำมันอ่อนแรง
นักลงทุนรอติดตามรายงานสต๊อกน้ำมันจาก API ในวันอังคาร และจาก EIA อย่างเป็นทางการในวันพุธ เพื่อประเมินแนวโน้มดีมานด์ในระยะสั้นต่อไป