ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งต่อเนื่อง หลังทรัมป์ถอยท่าทีต่อเฟด-จีน จุดความหวังคลี่คลายสงครามการค้า

Cover image ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งต่อเนื่อง หลังทรัมป์ถอยท่าทีต่อเฟด-จีน จุดความหวังคลี่คลายสงครามการค้า

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งต่อเนื่อง หลังทรัมป์ถอยท่าทีต่อเฟด-จีน จุดความหวังคลี่คลายสงครามการค้า

วอชิงตัน, 24 เม.ย. 2568 — ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณ “ถอย” จากท่าทีแข็งกร้าว ด้วยการประกาศว่า “ไม่มีเจตนา” ปลดเจอโรม พาวเวล จากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และเพิ่มความหวังว่าอาจผ่อนคลายมาตรการภาษีต่อจีน
 

📈 ดัชนีหลักปิดบวกแรง
- Dow Jones ปิดบวกกว่า 420 จุด หรือมากกว่า 1% แม้ระหว่างวันจะพุ่งกว่า 1,000 จุด
- S&P 500 ปรับตัวขึ้นกว่า 1.5%
- Nasdaq พุ่งแรง 2.5%

ทั้งนี้ ตลาดอยู่ในภาวะผันผวนตลอดสัปดาห์ก่อน หลังทรัมป์แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อพาวเวล พร้อมเรียกร้องให้ “ปลด” เขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเพิ่มความกังวลต่อความเป็นอิสระของเฟด
 

🗣️ ทรัมป์เปลี่ยนท่าที–เบสเซนต์ส่งสัญญาณบวก
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคารว่า “ไม่มีความตั้งใจจะปลดพาวเวล” ซึ่งถือเป็นการลดแรงตึงเครียดในตลาด ขณะที่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า มีโอกาสที่สหรัฐฯ จะลดความตึงเครียดกับจีน และ “อาจทำข้อตกลงใหญ่ได้” ในเวทีประชุม IMF และ World Bank

เบสเซนต์ยังเรียกร้องให้จีน “ลดการพึ่งพาการส่งออก” และหันมาเน้นการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น เพื่อสร้างสมดุลในการค้าระหว่างประเทศ พร้อมระบุว่า “ถ้าจีนต้องการปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ เราก็ทำร่วมกันได้”
 

📉 ความกังวลยังไม่หาย
แม้ตลาดจะตอบรับเชิงบวก แต่ความกังวลยังคงอยู่ นักลงทุนยังจับตาความสัมพันธ์ที่เปราะบางระหว่างทรัมป์กับพาวเวลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อทรัมป์ยังคงกดดันให้เฟดลดดอกเบี้ย แม้ว่านโยบายภาษีของเขาอาจเร่งให้เงินเฟ้อสูงขึ้น

ปัจจุบัน สหรัฐฯ ยังคงเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในอัตราสูงถึง 145% และมีการเก็บภาษีกับประเทศอื่นๆ อีกหลายราย ซึ่งนักวิเคราะห์เตือนว่าอาจกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และสร้างระเบียบเศรษฐกิจโลกแบบใหม่ที่ไม่แน่นอน
 

💬 "อเมริกาต้องร่วมมือ ไม่โดดเดี่ยว"
เบสเซนต์กล่าวว่า “America First ไม่ได้แปลว่า America Alone” พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ จะยังคงเป็นผู้นำในองค์กรระหว่างประเทศอย่าง IMF และ World Bank แต่ขอให้สององค์กรนี้ “กลับมาโฟกัสในภารกิจหลัก” โดยเฉพาะการส่งเสริมพลังงานต้นทุนต่ำในประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงโครงการพลังงานนิวเคลียร์และฟอสซิล เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
 

🧠 บทสรุป
แม้คำพูดของทรัมป์และเบสเซนต์ช่วยบรรเทาความกังวลในตลาดได้ชั่วคราว แต่ความไม่แน่นอนด้านนโยบายของสหรัฐฯ ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญ นักลงทุนทั่วโลกยังคงจับตาทุกท่าทีของทำเนียบขาวและธนาคารกลางอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางจากแรงกดดันหลายด้าน

06 May 2025By Trendpro