ราคาน้ำมันดีดกลับ! หลังนักลงทุนช้อนซื้อคืน แต่ความกังวล สงครามภาษี - นโยบายการเงิน ยังคงกดดันตลาด

ราคาน้ำมันดีดกลับ! หลังนักลงทุนช้อนซื้อคืน แต่ความกังวล สงครามภาษี - นโยบายการเงิน ยังคงกดดันตลาด
22 เม.ย. 2568 — ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร หลังจากร่วงลงแรงในวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนบางส่วนเข้าเก็งกำไรจากการช้อนซื้อคืน (short covering) อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินยังคงเป็นแรงกดดันต่อทิศทางราคาน้ำมันในระยะข้างหน้า
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent) ปรับขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.6% อยู่ที่ 66.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 06.20 น. GMT
- สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐฯ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7% อยู่ที่ 63.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญา WTI เดือนมิถุนายน ซึ่งมีการซื้อขายมากกว่า ขยับขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 62.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (21 เม.ย. 2568) ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 2% หลังมีรายงานความคืบหน้าในการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ซึ่งช่วยลดความกังวลด้านอุปทานในตลาด
“หลังจากแรงขายอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ เราเริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง” — ฮิโรยูกิ คิกุกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ของ Nissan Securities Investment กล่าว
ความไม่แน่นอนจากภาษี-ดอกเบี้ยยังคงกดดัน
คิกุกาวะกล่าวว่า ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันเป็นผลจากสงครามภาษียังเป็นปัจจัยหลักที่ตลาดจับตา โดยคาดว่าราคา WTI อาจแกว่งอยู่ในกรอบ 55–65 ดอลลาร์/บาร์เรล ในระยะนี้
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวโจมตีเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดอีกครั้ง พร้อมเรียกร้องให้ปรับลดดอกเบี้ยทันที ซึ่งสร้างความกังวลต่อตลาดเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลาง และส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรงในวันจันทร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
สัญญาณผ่อนคลายด้านอุปทาน
ขณะเดียวกัน ความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ทำให้แรงกดดันด้านอุปทานคลี่คลายลง โดยทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันร่างกรอบข้อตกลงนิวเคลียร์เบื้องต้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร และช่วยเพิ่มอุปทานน้ำมันจากอิหร่านในอนาคต
“เรามองว่าความเสี่ยงต่อการลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านเริ่มลดลง” — วิเวก ดาร์ นักวิเคราะห์จากธนาคาร Commonwealth Bank of Australia ระบุ
แนวโน้มสต็อกน้ำมันสหรัฐฯ
ข้อมูลเบื้องต้นจากผลสำรวจของ Reuters เมื่อวันจันทร์ คาดว่า ปริมาณน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินในคลังของสหรัฐฯ ลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น รายงานอย่างเป็นทางการจาก API และ EIA จะมีการเปิดเผยภายในสัปดาห์นี้
สรุป: แม้ราคาน้ำมันจะฟื้นตัวได้บ้างจากแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่ภาพรวมยังคงผันผวนจากแรงกดดันด้านนโยบายการค้า การเมืองสหรัฐฯ และทิศทางเศรษฐกิจโลก โดยตลาดยังคงจับตาความเคลื่อนไหวจากทั้งเฟดและทำเนียบขาวอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้